การหาค่าสี ADMI ในน้ำทิ้งโรงงาน
สีของน้ำเกิดจากอะไร สีของน้ำเกิดจากการปนเปื้อนของสารต่างๆ ทั้งที่เป็นสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ ทั้งที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ โดยที่สีนั้นสามารถถูกกำจัดออกได้เพื่อทำให้น้ำเหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีการวัดค่าสี อยู่หลายหน่วย เช่น หน่วยโลวิบอนด์ (Lovibond unit) หน่วยอะฟา (APHA unit) หน่วยแพลตินัมโคบอลต์ (Platinum-cobalt unit) และหน่วยเอดีเอ็มไอ (ADMI unit) ซึ่งในการวัดค่าสีในน้ำตัวอย่างนั้นจะต้องกระทำทันทีหลังจากเก็บน้ำตัวอย่าง แต่ถ้าไม่สามารถกระทำได้ทันทีให้เก็บไว้ที่อุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส และโดยทั่วไปการวัดค่าสีจะเป็นการวัดค่าสีจริง คือ สีที่ได้หลังจากการกำจัดเอาสารแขวนลอยออกแล้ว ซึ่งการกำจัดสารแขวนลอยออกนั้น ก็มีใช้กัน 2 วิธี คือ
1) วิธีการกรอง Filtration system ผ่าน calcined filter aids และ micrometallic filter crucible ขนาด 40 um
2) วิธีการหมุนเหวี่ยง Centrifuge system
การวัดค่าสีในหน่วย ADMI
การวัดค่าสีในหน่วย ADMIเป็นการตรวจสอบการปนเปื้อนของสีย้อม (Dye) และเม็ดสี (Pigment) ในน้ำ โดยการวัดค่าสีในหน่วย Platinum-Cobalt จะวัดค่าสีเฉพาะหน่วยสีที่เป็นสีเหลือง (Yellow) เท่านั้น ซึ่งเหมาะสำหรับการวัดค่าสีในแหล่งน้ำธรรมชาติ เนื่องจากน้ำจากแหล่งน้าธรรมชาติมักจะมีเฉดเป็นสีเหลืองถึงสีส้ม ในขณะที่การวัดค่าสีในหน่วย ADMI จะตรวจวัดปริมาณของสี (Color Value) ในทุกหน่วยสี ไม่เน้นที่สีใดสีหนึ่งโดยการตรวจวัดจะเป็นไปตามข้อกาหนดของมาตรฐาน EPA เลขที่ 110.1
หลักการตรวจวัดค่าสีในหน่วย ADMI เนื่องจากการวัดค่าสีในหน่วย ADMIมีการตรวจวัดค่าสีในทุก ๆหน่วยสี ดังนั้น จึงมีความสลับซับซ้อนกว่าการวัดค่าสีในหน่วย Platinum-Cobaltการวัดค่าสีในหน่วย ADMI ใน Standard Method for Examination of Water & Wastewaterมี 2 วิธีมาตรฐาน ดังนี้
-
APHA 2120E ADMI TristimulusFilter method
-
APHA 2120F ADMI Weighted-Ordinate Spectrophotometer
โดยทั้ง 2 วิธีมาตรฐานดังกล่าว เป็นการวิเคราะห์ค่าสีด้วยเครื่อง Spectrophotometer ที่ความยาวคลื่น 400-700 nmซึ่งเป็นการวัดค่าสีที่แท้จริง โดยวัดปริมาณเม็ดสีตั้งแต่เฉดสีม่วงถึงเฉดสีแดง