ค่า COD หมายถึง ปริมาณออกซิเจนทั้งหมดที่ต้องการ เพื่อใช้ในการ oxidize สารอินทรีย์ใน      น้ำเสียให้กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ   โดยที่สารอินทรีย์เกือบทั้งหมด (95-100 %) จะถูก oxidize โดยตัวเติมออกซิเจนอย่างแรง (Strong oxidizing agent) ภายใต้สภาวะที่เป็นกรด ดังสมการที่ 1

   C_nH_aO_bN_c + (n + a/4 - b/2 - 3/4c)O₂                                 nCO₂ + (a/2 - 3/2c)H₂O+NH₃…..(1)

                จะเห็นว่าสมการการเกิดปฏิกิริยาของ COD คล้ายกับ BOD คือสารอินทรีย์ในน้ำจะถูก oxidize จนได้คาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำ ต่างกันตรงที่ BOD นั้นใช้แบคทีเรียในการย่อยสลาย ส่วน COD ใช้ตัวเติมออกซิเจน (oxidizer) ดังกล่าวแล้ว โดยปกติค่า COD จะสูงกว่าค่า BOD ทั้งนี้เพราะสารอินทรีย์คาร์บอนจะถูก oxidize อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการดูดซึมทางชีวะ (biological assimilation) ของสารเหล่านั้น เช่น กลูโคส ลิกนิน เซลลูโลส โดยเฉพาะถ้าน้ำเสียนั้นมีสารอินทร์ที่ไม่สามารถถูก oxidize ทางชีวะปนอยู่ด้วย จะทำให้ค่า COD สูงกว่าค่า BOD มาก ในกรณีที่น้ำเสียมีสารอินทรีย์บางพวกเช่น straight-chain aliphatic compound, aromatic hydrocarbon, pyridine และ betaine ปะปนอยู่  ซึ่งสารเหล่านี้จะไม่ถูก oxidize ทางเคมี   ค่า COD จะน้อยกว่าค่า BOD อิออนของสารอินทรีย์บางตัว เช่น halogen (F^-, Cl^-, Br^-), NO^2-, S^2- และ Fe²⁺ มีผลทำให้ค่า COD มีค่ามากกว่าความเป็นจริง การหาค่า COD จะรู้ผลในเวลาไม่เกิน 3 ชม. ดังนั้นจึงเหมาะในการควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียเพราะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้ทันท่วงที และใช้ในการประเมินค่า BOD อย่างคร่าว ๆ   

 วิธีการหาค่า COD (Chemical Oxygen Demand) ในตัวอย่างน้ำ – คู่มือฉบับแล็บ

COD คืออะไร?

COD (Chemical Oxygen Demand) คือค่าที่ใช้บ่งชี้ปริมาณสารอินทรีย์ในน้ำ โดยแสดงถึงปริมาณออกซิเจนที่จำเป็นต้องใช้ในการสลายสารอินทรีย์ทางเคมี
ค่าที่สูงบ่งบอกถึงความสกปรกของน้ำ เช่น ในน้ำเสียจากโรงงานหรือแหล่งชุมชน

ทำไมต้องวัดค่า COD?

• ✅ ตรวจสอบคุณภาพน้ำเสียก่อนปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ

• ✅ ใช้ควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย (เช่น ระบบ Activated Sludge)

• ✅ ใช้ในงานวิจัยสิ่งแวดล้อม หรือผลิตภัณฑ์น้ำ

 วิธีการหาค่า COD ที่นิยมใช้

✅ 1. วิธีไทเทรต (Titrimetric Method)

ใช้ในแล็บทั่วไป โดยมีขั้นตอนหลักคือ:

1. เติม โพแทสเซียมไดโครเมต (K₂Cr₂O₇) เป็นตัวออกซิไดซ์

2. เติม ซัลฟิวริกแอซิด (H₂SO₄) และ ตัวเร่งปฏิกิริยา (Ag₂SO₄)

3. ต้มที่อุณหภูมิ ~150°C นาน 2 ชั่วโมง

4. หลังจากเย็นลง ทำการไทเทรตด้วย เฟอรัสแอมโมเนียมซัลเฟต (FAS)

5. คำนวณค่า COD จากปริมาณ FAS ที่ใช้

เหมาะสำหรับ: ห้องแล็บที่มีอุปกรณ์พื้นฐาน
ข้อดี: ค่าแม่นยำ
ข้อควรระวัง: ต้องควบคุมสารเคมีอันตราย

✅ 2. วิธีวัดด้วยเครื่องวัด COD แบบดิจิทัล (Photometric Method)

เป็นวิธีที่สะดวกและแม่นยำ โดยใช้:

• COD Reactor เพื่อให้ความร้อน

• Photometer หรือ Spectrophotometer วัดค่าการดูดกลืนแสงของตัวอย่าง

เหมาะสำหรับ: โรงงาน, QC Lab, และผู้ใช้งานทั่วไป
ข้อดี: ใช้งานง่าย ปลอดภัย วิเคราะห์ไว
ตัวอย่างเครื่องยอดนิยม:

Lovibond COD MD200+COD reactor  RD125

• HANNA COD Meter HI83399

 อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัด COD

• เตาย่อยซีโอดี  COD (COD Reactor)

• เครื่องวัดแสง (Photometer / Spectrophotometer)

• COD Test Tube พร้อมสารเคมี

• ขวด Erlenmeyer, buret, pipette (ในกรณีไทเทรต)

ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ COD

• สวมถุงมือและแว่นตานิรภัย

• ใช้สารเคมีในตู้ดูดควัน

• ตรวจสอบวันหมดอายุของรีเอเจนต์

• สอบเทียบเครื่องวัดแสงเป็นระยะ

 เหมาะกับใคร?

• ห้องแล็บสิ่งแวดล้อม – ต้องการค่าที่แม่นยำเพื่อรายงาน

• โรงงานผลิต/แปรรูปอาหาร ยา เคมี – ตรวจสอบน้ำเสียก่อนปล่อย

• หน่วยงานราชการ/เอกชน – วิเคราะห์ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม

 หากคุณกำลังมองหาเครื่องวัด COD...

เราจำหน่ายเครื่องวัด COD แบบครบชุด พร้อมใบรับรองการสอบเทียบ (Certificate) และทีมช่างเทคนิคให้คำแนะนำ:

✅ ยี่ห้อ HACH / Lovibond / Hanna
✅ บริการจัดส่งทั่วประเทศ
✅ ราคาพิเศษสำหรับห้องแล็บและโรงงาน

ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคา: 0814675079  @taradlab

 คำค้น SEO ที่เกี่ยวข้อง:

• การวัดค่า COD

• วิธีไทเทรต COD

• เครื่องวัด COD ยี่ห้อไหนดี

• COD น้ำเสีย คืออะไร

• วิธีตรวจสอบคุณภาพน้ำ

• chemical oxygen demand

• COD meter

• COD test kit

• การควบคุมคุณภาพน้ำเสีย

• วิเคราะห์น้ำในห้องแล็บ